ความหมายของระบบสุริยะ

เราทราบโดยระบบสุริยะว่าการก่อตัวของวัตถุท้องฟ้าที่หมุนรอบดาวฤกษ์ที่เรียกว่าดวงอาทิตย์ภายในระบบสุริยะนี้คือดาวเคราะห์โลกซึ่งมีเพียงดวงเดียวเท่านั้นที่แสดงสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต ปัจจุบันระบบสุริยะเป็นระบบสุริยะระบบเดียวที่มนุษย์รู้จักซึ่งมีชีวิต

แม้ว่าความเข้าใจและการตีความว่ามนุษย์สร้างขึ้นจากวิธีการทำงานของระบบสุริยะนั้นไม่เหมือนกันเสมอไป (ในสมัยโบราณเคยเชื่อว่าดวงอาทิตย์โคจรรอบโลก) วันนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าศูนย์กลาง แรงโน้มถ่วงของระบบสุริยะนี้คือดวงอาทิตย์อย่างแม่นยำซึ่งรอบ ๆ ดาวเคราะห์ดาวพุธดาวศุกร์โลกดาวอังคารดาวพฤหัสบดี (ดวงใหญ่ที่สุด) ดาวเสาร์ (วงโคจรที่ใหญ่ที่สุดรอบเส้นรอบวง) ดาวยูเรนัสดาวเนปจูนและดาวพลูโต . ข้างดาวเคราะห์เหล่านี้เราพบร่างอื่น ๆ เช่นดวงจันทร์หรือดาวเทียมธรรมชาติดาวเคราะห์น้อยดาวเคราะห์แคระและอื่น ๆ

เห็นได้ชัดว่าศูนย์กลางของระบบสุริยะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากดาวฤกษ์ที่รู้จักกันในชื่อดวงอาทิตย์ดาวดวงนี้ซึ่งมีมวลเกือบทั้งหมดของระบบสุริยะมีมวลประกอบด้วยไฮโดรเจนร้อยละ 75 ไฮโดรเจนร้อยละ 20 ฮีเลียมหนึ่งร้อยและ องค์ประกอบอื่น ๆ ห้าเปอร์เซ็นต์

ความแตกต่างระหว่างดาวเคราะห์ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยะนั้นสังเกตเห็นได้ชัดเจนในหลายประการ ในแง่นี้ถ้าเราสมมติว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของดาวเคราะห์โลกเท่ากับ 1 ดาวพฤหัสบดีจะมากกว่าสิบเอ็ดเท่าของดาวเสาร์มากกว่า 9.46 เท่าและดาวเคราะห์รองอื่น ๆ จะเท่ากับ 0.382 (ดาวพุธ) หรือ 0.53 (ดาวอังคาร) ในขณะที่คาบการโคจรของปีบนบกหมายถึงดาวเคราะห์เช่นดาวพฤหัสบดีมากกว่าสิบเอ็ดปีสำหรับดาวเสาร์มากกว่า 29 ปีและดาวเนปจูน 164 ปี (ซึ่งเกี่ยวข้องกับระยะห่างของดาวเคราะห์แต่ละดวงจากดวงอาทิตย์และด้วยการมีขนาดใหญ่และ วงโคจรที่ใหญ่กว่ายิ่งไกลออกไป) ระยะเวลาการหมุนของวันโลกแสดงถึง 1.03 สำหรับดาวอังคาร 58.6 สำหรับดาวพุธและ 243 สำหรับดาวศุกร์เพื่อบอกชื่อไม่กี่


$config[zx-auto] not found$config[zx-overlay] not found